ความปลอดภัยของการใช้ภาชนะพลาสติกในเตาไมโครเวฟ

โดย นายคงศักดิ์ ดอกบัว
ผู้อำนวยการฝ่ายสารสนเทศและกลยุทธ์อุตสาหกรรม
สถาบันพลาสติก

หลักการให้ความร้อนของเตาไมโครเวฟ

เตาไมโครเวฟถือเป็นนวัตกรรมสิ่งประดิษฐ์ที่ยิ่งใหญ่ในศตวรรษที่ 20 เลยทีเดียว เพราะเนื่องจากว่าเป็นสิ่งที่ทำให้การปรุงหรืออุ่นอาหารในการใช้ชีวิตยุคใหม่สะดวกสบายรวดเร็วเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้เกือบทุกคน ทุกครัวเรือนต้องใช้เตาไมโครเวฟอย่างน้อย 1 ครั้ง ต่อ วัน แน่นอน

การให้ความร้อนของเตาไมโครเวฟนั้นใช้หลักการหมุนสั่นของโมเลกุลของน้ำ โดยยิงคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าที่ความถี่ 2,450 เมกกะเฮิร์ต(MHz) ซึ่งกำเนิดจากหลอดแมกนีตรอน  คลื่นนี้มีความถี่ที่สอดคล้องกับความถี่ธรรมชาติของการหมุนสั่นของโมเลกุลของน้ำ สารอาหารบางประเภท เช่น ไขมันและน้ำตาลก็สั่นหมุนวนกับคลื่นไมโครเวฟที่ความถี่นี้ด้วย อธิบายได้ว่าคลื่นไมโครเวฟซึ่งเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าจะเหนี่ยวนำให้โมเลกุลที่มีขั้ว หมุนสั่นไปตามจังหวะความถี่ของคลื่น โมเลกุลของน้ำซึ่งมีขั้วจะหมุนขึ้นและหมุนลงตามทิศทางของหัวคลื่นสนามไฟฟ้า เมื่อโมเลกุลของน้ำหมุนวนอย่างรวดเร็วนี้ มันจะสั่นชนกันเอง และชนกับโมเลกุลอื่นๆ การสั่นอย่างรุนแรงเช่นนี้ ทำให้มัน “ร้อน” นั่นเอง การที่มันร้อนเช่นนี้ต่างกับการให้ความร้อนแบบดั้งเดิมที่อาศัยการนำพาความร้อนจากแหล่งความร้อนภายนอก เช่น เตาแก๊ส ที่ความร้อนจะค่อยๆ แผ่จากภายนอกเข้าสู่ภายใน และสารอาหารทุกชนิดจะสั่นร้อนเหมือนกันหมด ไม่เฉพาะน้ำอย่างเดียวเหมือนเตาไมโครเวฟ ดังนั้นพ่อครัวมืออาชีพยังคงใช้เตาแบบดั้งเดิมอยู่เนื่องจากรสชาติอาหารที่ปรุงจากเตาไมโครเวฟยังให้อาหารสุกได้ไม่เหมือนการใช้ความร้อนจากเตาแบบดั้งเดิม

คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า คือ คลื่นประเภทหนึ่งซึ่งเป็นประเภทเดียวกันคลื่นแสงที่ตามองเห็น คลื่นวิทยุ คลื่นโทรทัศน์  คลื่นสัญญานดาวเทียม คลื่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งมีความปลอดภัยไม่มีอันตรายต่อสิ่งมีชีวิต ไม่มีการตกค้างใดๆ หลังจากอุ่นอาหาร (ไม่ใช่คลื่นรังสีประเภทกัมมันตภาพรังสี  ซึ่งมีอันตรายจากกัมมันตภาพรังสีตกค้างตามที่มีข่าวผิดๆ)

สารที่ซึมผ่านเข้าสู่อาหาร

อันตรายที่อาจเกิดจากสารเติมแต่งบางอย่างจากภาชนะพลาสติกแพร่เข้าสู่อาหารในขณะปรุงอาหารนั้นอาจเป็นไปได้ ถ้าภาชนะพลาสติกนั้นๆไม่ได้ถูกออกแบบมาสำหรับเตาไมโครเวฟ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ภาชนะพลาสติกที่บ่งบอกว่า “ปลอดภัยในเตาไมโครเวฟ” หรือ “Microwave safe” หรือคำอื่นๆในทำนองเดียวกัน ภาชนะพลาสติกบางอย่างเมื่อร้อนจะหลอมละลาย เช่น ถุงเย็น ถุงซิป เป็นต้น หรือถ้าร้อนมากก็อาจจะสลายตัวได้ ดังนั้ภาชนะชนิดนั้นก็ไม่ควรใช้ในเตาไมโครเวฟ

ภาชนะพลาสติกชนิดต่างๆ

โดยธรรมชาติแล้วคลื่นไม่โครเวฟจะไม่เหนี่ยวนำความร้อนให้เกิดกับภาชนะใดๆ ที่ทำจาก พลาสติก แก้ว หรือ เซรามิก ที่ภาชนะต่างๆร้อนนั้น เนื่องมาจากได้รับความร้อนจากการนำพาจากอาหารที่ร้อน

ในภาชนะ สาเหตุที่ภาชนะต่างๆไม่ร้อนจากเตาไมโครเวฟ นั้นเนื่องมาจากโมเลกุลของพลาสติก แก้ว หรือ เซรามิกเป็นโมเลกุลขนาดใหญ่ มันไม่สามารถดูดกลืนคลื่นไมโครเวฟแล้วทำให้ตัวเองหมุนสั่นได้แต่อย่างไรก็ตามพลาสติกมีหลายประเภท บางชนิดดูดกลืนคลื่นไม่โครเวฟได้

ท่านสามารถทดลองได้ว่าภาชนะพลาสติกชนิดไหนดูดกลืนคลื่นไมโครเวฟแล้วร้อน ได้โดยนำน้ำใส่ภาชนะนั้นๆ แล้วนำไปใส่ในเตาไมโครเวฟ เปิดเครื่องแล้วลองสัมผัสดูว่าภาชนะนั้นร้อนหรือไม่ ถ้าร้อนแสดงว่าภาชนะนั้นไม่เหมาะกับการอุ่นอาหารด้วยเตาไมโครเวฟ แต่ถ้าไม่ร้อนภาชนะนั้นอาจจะเหมาะได้ แต่ก็ต้องดูปัจจัยอย่างอื่นต่อด้วย

ส่วนภาชนะหรือสิ่งของที่ทำด้วยโลหะนั้นจะไม่ดูดกลืนคลื่นไมโครเวฟแต่จะสะท้อนคลื่นแทน การสะท้อนนั้นมันจะสะท้อนไปมาในเตาไมโครเวฟและถ้าเกิดการสะท้อนกลับเข้าไปในหลอดแมกนีตรอนอาจทำให้หลอดเสียหายได้และบางกรณีอาจเกิดการสป๊าก จากโลหะ ทำให้ไฟไหม้ได้ ดังนั้นไม่ควรใช้ภาชนะหรือสิ่งใดๆที่ทำจากโลหะ เข้าไปในไมโครเวฟ

ก่อนจะตัดสินใจใช้ภาชนะพลาสติกในเตาไมโครเวฟนั้นควรปฎิบัติดังนี้

  • ภาชนะสำหรับบรรจุอาหารพร้อมรับประทาน ที่อุ่นด้วยเตาไมโครเวฟนั้น ถูกออกแบบให้ใช้ครั้งเดียวเท่านั้น ดังนั้นควรใช้เพียงครั้งเดียว
  • ก่อนปรุงอาหารด้วยเตาไมโครเวฟ ควรเปิดให้มีช่องว่าง เช่น การแง้มเปิดฝา หรือเจาะรูที่ฝาของภาชนะนั้นๆเสียก่อน
  • ไม่ควรใช้ถุงพลาสติดทั่วไป จำพวก ถุงแกง ถุงขนม ถุงหูหิ้วต่างๆ ในเตาไมโครเวฟ
  • ภาชนะพลาสติกดังต่อไปนี้ ส่วนใหญ่ไม่เหมาะสมในการใช้ในเตาไมโครเวฟ คือ ขวดบรรจุน้ำดื่ม, กระปุก ขวดโหลที่ทำจากพลาสติกสำหรับใส่เนย มาการีน แยมชนิดต่างๆ, ถ้วยโยเกิร์ต เป็นต้น
  • ควรเลือกใช้ภาชนะพลาสติกที่ออกแบบสำหรับเตาไมโครเวฟเท่านั้น โดยสังเกตุคำว่า “Microwave Safe” หรือ “Microwavable” ที่ก้นภาชนะ หากไม่แน่ใจควรถ่ายอาหารออกจากภาชนะพลาสติกแล้วนำไปอุ่นในภาชนะที่ทำจาก แก้ว หรือ เซรามิก แทน

กลับสู่หน้าแรกบริการ รับผลิตกระบอกน้ำ