ประเภทของพลาสติก
พลาสติก (Plastic)
คือ สารประกอบอินทรีย์ที่มนุษย์สร้างขึ้น ใช้แทนวัสดุธรรมชาติส่วนใหญ่เป็นผลผลิตที่ได้จากการกลั่นน้ำมันดิบ พลาสติกนำมาใช้สร้างสิ่งของเครื่องใช้มากมายและมีบทบาทอย่างยิ่งต่อการดำเนินชีวิตประจำวันของทุกคนกระบวนการผลิตพลาสติก ถือเป็นกระบวนการที่ต้องอาศัยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและใช้งบประมาณสูง เนื่องจากการผลิตพลาสติกนั้น จะต้องมีการนำทรัพยากรธรรมชาติที่อยู่ในรูปของปิโตรเลียม ซึ่งถูกทับถมกันอยู่ลึกลงไปบริเวณใต้พิภพขึ้นมาใช้ ซึ่งต้องผ่านกระบวนการสำรวจและขุดเจาะขึ้นมา แล้วจึงนำเข้าสู่กระบวนการแยกประเภทของปิโตรเลียมซึ่งอาจจะอยู่ในรูปของก๊าซ ของเหลว หรือของแข็งก็ได้ ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมที่ได้จึงจะถูกนำไปแปรรูป โดยอาศัยความรู้และเทคโนโลยีทางปิโตรเคมี เพื่อเปลี่ยนรูปของปิโตรเลียมให้เป็นเม็ดพลาสติกชนิดต่างๆ โดยอาจจะมีการปรับปรุง เติมแต่งคุณสมบัติทางเคมีเพื่อให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งานในแต่ละประเภท ก่อนจะเข้าสู่อุตสาหกรรมพลาสติก เพื่อที่จะนำเม็ดพลาสติกที่ได้มาหลอมโดยใช้ความร้อนสูงกลายเป็นของเหลวและขึ้นรูปเป็นผลิตภัณฑ์พลาสติกชนิดต่างๆ ที่ใช้กันอยู่มากมายในปัจจุบัน พลาสติกแบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastics) และ เทอร์โมเซตติงพลาสติก (Thermosetting plastics)ประเภทของพลาสติก
เรามาทำความรู้จักเกี่ยวกับประเภทของพลาสติก หากว่าคุณเคยสงสัยว่าพลาสติกมีกี่ประเภทกันแน่ และแต่ละประเภทเป็นอย่างไร และใช้ทำอะไรบ้างในอุตสาหกรรมต่างๆ วันนี้เราจะพาคุณไปรู้จักกับพลาสติกประเภทต่างๆ กัน พลาสติกแบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ เทอร์โมพลาสติก และ เทอร์โมเซตติงพลาสติก- เทอร์โมพลาสติก (Thermoplastic) หรือ เรซิน เป็นพลาสติกที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดในโลก ได้รับความร้อนจะอ่อนตัว และเมื่อเย็นลงจะแข็งตัว สามารถเปลี่ยนรูปได้ พลาสติกประเภทนี้โครงสร้างโมเลกุลเป็นโซ่ตรงยาว มีการเชื่อมต่อระหว่างโซ่พอลิเมอร์น้อยมาก จึงสามารถหลอมเหลว หรือเมื่อผ่านการอัดแรงมากจะไม่ทำลายโครงสร้างเดิม ตัวอย่าง พอลิเอทิลีน พอลิโพรพิลีน พอลิสไตรีน มีคุณสมบัติพิเศษ คือ เมื่อหลอมแล้วสามารถนำมาขึ้นรูปกลับมาใช้ใหม่ได้ ชนิดของพลาสติกใน ตระกูลเทอร์โมพลาสติก จึงเหมะสำหรับนำมาผลิตเป็น “กระบอกน้ำพลาสติก“
- เทอร์โมเซตติงพลาสติก (Thermosettingplastic) เป็นพลาสติกที่มีสมบัติพิเศษ คือ ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิและทนปฏิกิริยาเคมีได้ดี เกิดคราบและรอยเปื้อนได้ยาก คงรูปหลังการผ่านความร้อนหรือแรงดันเพียงครั้งเดียว เมื่อเย็นลงจะแข็งมาก ทนความร้อนและความดัน ไม่อ่อนตัวและเปลี่ยนรูปร่างไม่ได้ แต่ถ้าอุณหภูมิสูงก็จะแตกและไหม้เป็นขี้เถ้าสีดำ พลาสติกประเภทนี้โมเลกุลจะเชื่อมโยงกันเป็นร่างแหจับกันแน่น แรงยึดเหนี่ยวระหว่างโมเลกุลแข็งแรงมาก จึงไม่สามารถนำมาหลอมเหลวได้ กล่าวคือ เกิดการเชื่อมต่อข้ามไปมาระหว่างสายโซ่ของโมเลกุลของพอลิเมอร์ เหตุนี้หลังจาก พลาสติกเย็นจนแข็งตัวแล้ว จะไม่สามารถทำให้อ่อนได้อีกโดยใช้ความร้อน หากแต่จะสลายตัวทันทีที่อุณหภูมิสูงถึงระดับ การทำพลาสติกชนิดนี้ให้เป็นรูปลักษณะต่าง ๆ ต้องใช้ความร้อนสูง และโดยมากต้องการแรงอัดด้วย
กลับสู่หน้าแรกบริการ รับผลิตกระบอกน้ำ
Leave a Reply
Want to join the discussion?Feel free to contribute!